การเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา


 


รับตรง กับ แอดฯ ต่างกันอย่างไร

รับตรง กับ แอดฯ

เหตุการณ์ที่ 1 : เรื่องของการอ่านหนังสือ

            รับตรง : อ่านแบบเรื่อยๆ เรียงเฉพาะเนื้อหาอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับคณะที่ตัวเองไปสอบ
            แอดฯ : อ่านมันครอบจักรวาล ทั้ง GAT PAT O-NET ตีกันให้วุ่น ยิ่งอ่านก็ยิ่งเครียด เพราะใกล้จะถึงวันสอบอยู่แล้ว แต่ยังจำอะไรไม่ได้เลย

>> เหตุการณ์ที่ 2 : เรื่องของคืนก่อนวันสอบ

            รับตรง : เครียดไปเพื่อ? ถึงไม่ติดคณะนี้ ก็ลองไปสอบคณะอื่นดู แอดมิมิชชั่นกลางก็ยังมี เครียดทำไม หลับดีกว่า - -"
            แอดฯ : ตาค้าง อ่านหนังสือจบแล้ว แต่ก็หลับไม่ลง.. พรุ่งนี้คือวันประหารใช่ไหม ??ขณะที่บางคนไม่ได้นอน เพราะยังอ่านหนังสือไม่จบ ตาคอยเหลือบมองนาฬิกาตลอดเวลา.. ใกล้จะเช้าแล้ว !?!

 >> เหตุการณ์ที่ 3 : เรื่องของวันสอบ

             รับตรง : ทำข้อสอบชิวๆ เอาน่า ถ้าไม่ติดเดี๋ยวก็เอาใหม่ได้
             แอดฯ : กว่าจะฝนสักช่อง คิดแล้วคิดอีกอเพราะระลึกถึงเสมอว่า ทุกๆอข้อที่ฝนไป มันคือชีวิตทั้งชีวิตของตนเอง

 >> เหตุการณ์ที่ 4 : เรื่องของความเครียด

             รับตรง : ไม่ได้เครียดเรื่องสอบไม่ติด แต่เครียดเรื่องที่หากมันดันติดทั้งสองคณะนี่สิ จะเอาคณะในดีหว่า ปรึกษาเพื่อนก็ไม่ได้ เพราะมีแต่คนพูดใส่หน้าว่า “เหม็นขี้หน้าคนมีที่เรียนแล้ว”
             แอดฯ : เครียดเรื่องคะแนนตัวเอง มันจะพอยื่นเหรอฟะ คณะไหนดีที่คะแนนตัวเองถึง

 >> เหตุการณ์ที่ 5 : เรื่องหลังจากวันประกาศผล

             รับตรง : มีที่เรียนแล้ว เย้ เย้ ดีนะที่ไม่เสี่ยงสอบแอดฯ
             แอดฯ : ไม่รู้ว่าจะมีที่เรียนไหม ไม่น่าประมาทเลย น่าจะสอบตรงซะก็ดี เครียด !